วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ขิง

ginger1

ขิง

 ขิงแกลง/ขิงแดง/ขิงเผือก/Ginger
ชื่อวิทยาศาสตร์: Zingiber officinale Roscoe
ginger2วงศ์: Zingiberaceae
ประเภท: ไม้ล้มลุก อายุหลายปี
ความสูง: 1 เมตร
ลำต้น: เป็นเหง้าอยู่ใต้ดิน เจริญเป็นพุ่ม
ใบ: เดี่ยวรูปแถบ ออกเวียนสลับระนาบเดียว ปลายใบเรียวแหลม โคนใบสอบแคบเป็นกาบหุ้มลำต้นเทียม มีขนอ่อนปกคลุมทุกส่วน
ดอก: ช่อดอกแทงจากดินชูตั้งขึ้น ผลิบานในฤดูฝน กาบรองช่อดอกสีเขียวอมแดงเรื่อ ดอกย่อยสีเหลืองอมเขียว ช่อดอกอยู่ได้นานเป็นเดือน
ผล: เป็นผลแห้ง มีกาบช่อดอกรองรับ เมื่อแก่แตกออก ภายในแบ่งเป็นสามพู มีเมล็ดยาวรีสีน้ำตาล
ดิน: ดินร่วนระบายน้ำดี ควรเริ่มปลูกในฤดูฝน จะช่วยให้ขิงแตกหน่อได้เร็ว
น้ำ: ปานกลาง
แสงแดด: ครึ่งวัน
ขยายพันธุ์: แยกเหง้า
การใช้งานและอื่นๆ: ยอดอ่อนกินเป็นผักสดกับอาหารรสจัดต่าง ๆ และใช้เป็นสารกันบูดกันหืนได้ดี มีมากในฤดูฝน  เหง้าอ่อนใช้ปรุงอาหาร ช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์โดยเฉพาะเนื้อปลา  เหง้าขิงและใบขิงมีรสเผ็ดร้อน ช่วยขับลมในกระเพาะอาหาร แก้ท้องอืดท้องเฟ้อที่เกิดจากอาหารไม่ย่อย รวมถึงแก้อาการเมารถ ไมเกรน ลดคอเลสเตอรอล และอาการปวดตามข้อได้ด้วย  หน่ออ่อนรสเผ็ดร้อนควรขุดขึ้นมาหลังจากต้นเริ่มแตกหน่อ 3 – 5เดือน
ข้อควรระวัง หญิงมีครรภ์ที่มีประวัติแท้งง่ายและผู้ที่มีปัญหาถุงน้ำดีไม่ควรบริโภคน้ำขิงเข้มข้นเกินไป เพราะจะลดการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้ท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย

แก้วเจ้าจอม

Lignum Vitae2

แก้วเจ้าจอม

 Lignum Vitae
ชื่อวิทยาศาสตร์: Guaiacum officinale L.
วงศ์: Zygophyllaceae
ประเภท: ไม้ต้นขนาดใหญ่
ความสูง: 10 – 15 เมตร
ลำต้น: มีเนื้อไม้แข็ง
ใบ: ประกอบแบบขนนกปลายคู่ ออกตรงข้ามมี 2 พันธุ์ คือ ใบย่อย 2 คู่และ 3 คู่ ใบย่อยรูปไข่กลับหรือรูปรี ขนาดไม่เท่ากัน กว้าง 1- 2.5 เซนติเมตร ยาว 1.5 – 2.5 เซนติเมตร ปลายใบมน โคนใบสอบ
Lignum Vitae1ดอก: ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบใกล้ปลายยอด กลีบดอก 5 กลีบ ดอกบานมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 – 2.5 เซนติเมตร บานวันแรกสีฟ้าอมม่วง จากนั้นสีจะซีดลงเป็นสีขาว เกสรสีเหลืองเห็นเด่นชัด มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ออกดอกเดือนสิงหาคม – มกราคม
ผล: กลมแบน ขนาดประมาณ 1.5 เซนติเมตร ปลายผลมีติ่งแหลม เปลือกแข็ง
ดิน: ดินร่วนระบายน้ำดี
แสงแดด: เต็มวัน
น้ำ: ปานกลาง
ขยายพันธุ์: ค่อนข้างยาก นิยมใช้วิธีตอนกิ่งและเพาะเมล็ด
การใช้งานและอื่นๆ: เหมาะปลูกเป็นไม้ประดับให้ร่มเงา  มีถิ่นกำเนิดในหมู่เกาะเวสต์อินดีส  พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำต้นพันธ์มุาจากประเทศอินโดนีเซียเมื่อปี พ.ศ. 2451 และทรงปลูกไว้ที่พระราชอุทยานสวนสุนันทา เดิมชาววังเรียกว่า“ ต้นน้ำอบฝรั่ง ” ต่อมาพระวิมาดาเธอ กรมพระสุทธาสินีนาฏ ปิยมหาราช ปดิวรัดา ประทานชื่อใหม่ว่า “แก้วจุลจอม”  ในปี พ.ศ. 2501 ศาสตราจารย์เต็ม สมิตินันทน์ ได้ตั้งชื่อใหม่ว่า “แก้วเจ้าจอม” ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้เรียกอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน  เป็นพรรณไม้ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ฟาร์แบร์เช่


ฟาร์แบร์เช่


Fabergé 
วงศ์: Rosaceae
ประเภท: Floribunda /กุหลาบพวง
ความสูง: 1 เมตร
ลำต้น: เป็นพุ่มกระทัดรัด หนามน้อย
ใบ: หนา สีเขียวเข้ม
ดอก: ดอกบาน 7-8 ซม.  สีชมพูครีมอมส้ม โคนกลีบเหลือบสีเหลืองนวล กลิ่นหอมอ่อนๆ
อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง
ดิน: ดินปนทราย มีอินทรียวัตถุ ระบายน้ำและอากาศดี ค่า pH 6-7
น้ำ: ปานกลาง ไม่ขังแฉะ
แสงแดด: ตลอดวัน
ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ติดตา ปักชำกิ่ง
การใช้งานและอื่นๆ: เหมาะปลูกในกระถางหรือลงแปลงประดับสวน เผยแพร่เมื่อปีค.ศ. 1969 (พ.ศ. 2512)

ศรีมาลา

Red Granadilla

ศรีมาลา

มังกรแดง/เล็บมังกร/สร้อยสังวาล/Red Granadilla/Red Passion Flower
ชื่อวิทยาศาสตร์: Passiflora coccinea Aubl.
วงศ์: Passifloraceae
ประเภท: ไม้เลื้อยขนาดเล็ก อายุหลายปี
ลำต้น: ยอดเลื้อยได้ไกล 1 – 3 เมตร มีมือเกาะออกตรงข้ามใบ ลำต้นมีขนปกคลุม
ใบ: ใบเดี่ยว รูปไข่แกมรูปหัวใจ กว้าง 7 – 10 เซนติเมตร ยาว 14 – 18 เซนติเมตร ปลายใบมน โคนใบเว้า ขอบใบเป็นคลื่น แผ่นใบหนาสีเขียว มีขนนุ่มปกคลุม
ดอก: ดอกเดี่ยวออกตามซอกใบ ดอกทรงกลมห้อยลง กลีบเลี้ยง สีเขียวอมแดง 5 กลีบ รูปขอบขนาน มีรยางค์ลักษณะเป็นเส้นสีแดงเข้ม โคนสีขาวและปลายสีแดงเรียงเป็นวงในสุด ออกดอกเดือนพฤศจิกายนถึงธันวาคม
ผล: ผลสดมีเนื้อ รูปไข่ ผลอ่อนสีเขียว เมื่อแก่สีเหลืองส้ม มีเมล็ดขนาดเล็กจำนวนมาก
ดิน: ดินร่วน ระบายน้ำดี
แสงแดด: เต็มวัน
ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ปักชำและตอนกิ่ง
การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นซุ้มไม้เลื้อย *คำระบุชนิด coccinea หมายถึง สีเลือดหมู สื่อถึงสีดอก

ลิปสติกแดง

Lipstick Plant

ลิปสติกแดง

Lipstick Plant 
ชื่อวิทยาศาสตร์: Aeschynanthus radicans Jack
วงศ์: Gesneriaceae
ประเภท: ไม้เลื้อยอิงอาศัยอายุหลายปี
ความสูง: เลื้อยได้ไกล 1 – 2 เมตร
ลำต้น: สีแดงเข้ม
ใบ: เดี่ยวเรียงตรงข้ามเป็นคู่ รูปใบหอก กว้าง 1 – 2 เซนติเมตร ยาว 2 – 4 เซนติเมตร ปลายและโคนใบมน แผ่นใบหนาสีเขียวอวบน้ำ
ดอก: ออกเป็นช่อกระจุกที่ซอกใบและปลายยอด มี 2 – 3 ดอก กลีบเลี้ยง และโคนกลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอด กลีบดอกสีแดงอมส้ม เหลือง หรือชมพู ปลายแผ่ออกเป็น 5 กลีบ ออกดอกตลอดปี
ผล: ฝักรูปแถบเรียว เมล็ดมีพู่ขนติดที่ปลาย
ดิน/วัสดุปลูก: โปร่งแต่เก็บความชื้นได้ดี เช่น ดินร่วนผสมกาบมะพร้าวสับ
แสงแดด: รำไร
ความชื้น: สูง อากาศถ่ายเทสะดวก
น้ำ: ปานกลาง
ขยายพันธุ์: ปักชำกิ่ง
การใช้งานและอื่นๆ: นิยมทำไม้กระถางแขวนตกแต่งสถานที่และประดับสวน

หอมเจ็ดชั้น

wallochii1

หอมเจ็ดชั้น

จันทนาใบเล็ก
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tarenna wallichii (Hook.f.) Ridl.
วงศ์: Rubiaceae
ประเภท: ไม้พุ่ม
ความสูง:  3 เมตร
ทรงพุ่ม: กลม
ลำต้น: แตกกิ่งยอดจำนวนมาก กิ่งเปราะ เปลือกต้นสีดำ มีใบเฉพาะที่ปลายยอด
ใบ: ใบเดี่ยวออกตรงข้ามเป็นคู่ รูปรี กว้าง 2 – 3 เซนติเมตร ยาว 6 – 10 เซนติเมตร ปลายใบและโคนใบแหลม แผ่นใบหนาและเหนียว สีเขียวเข้ม
ดอก: ช่อดอกสีขาวนวลหรือขาวอมเหลือง ออกเป็นช่อใหญ่ที่ปลายกิ่ง มีดอกย่อยจำนวนมากคล้ายดอกเข็ม โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เส้นผ่านศูนย์กลางดอก 1 เซนติเมตร ดอกบานพร้อมกันทั้งช่อนาน 2 – 3 วันแล้วโรย ส่งกลิ่นหอมแรงตลอดวัน ออกดอกช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ หากปลูกในพื้นที่ที่มีความชื้นตลอดปี จะทยอยออกดอกในช่วงอื่นๆ ได้
ดิน: ดินร่วนและดินร่วนปนทราย
แสงแดด: เต็มวัน
น้ำ: ปานกลาง
ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ปักชำกิ่งและตอนกิ่ง
การใช้งานและอื่นๆ: ควรปลูกให้ห่างจากต้นไม้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร หมั่นตัดแต่งกิ่งจะทำให้ออกดอกดกขึ้น หากปลูกในที่มีอากาศเย็นจะออกดอกดก

ไอริสน้ำ

fan iris

ไอริสน้ำ

Fan Iris
ชื่อวิทยาศาสตร์: Neomarica longifolia (Link & Otto) Sprague
วงศ์ : Iridaceae
ประเภท: ไม้ริมน้ำ อายุหลายปี
ความสูง: สูงถึง 1 เมตร
ลำต้น: มีเหง้าสั้น ๆ ใต้ดิน เจริญเป็นกอ
ใบ: ใบเดี่ยว ออกสลับระนาบเดียว รูปแถบแบนยาวเรียวแหลม กว้าง 2.5 เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร
ดอก: ช่อดอกเป็นช่อกระจุกออกจากซอกใบ ชูตั้งขึ้น ดอกขนาด 5 – 8 เซนติเมตร กลีบดอกบาง มี 3 กลีบ สีเหลือง โคนกลีบมีจุดเล็ก ๆ สีน้ำตาล ดอกบานเพียงวันเดียวตั้งแต่ช่วงสายถึงบ่าย ทยอยบานทีละ 1 – 2 ดอก แต่ละช่อทยอยบานนานหลายสัปดาห์ ออกดอกตลอดปี แต่ดอกดกในช่วงฤดูหนาว
ดิน: ดินเหนียว ระดับน้ำ 10-15 ซม.
แสงแดด: ครึ่งวันถึงเต็มวัน
ขยายพันธุ์: สามารถแตกต้นอ่อนที่ช่อดอกได้หรือแยกกอ
การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกเป็นไม้กระถางได้ดี ถ้าดินแห้งและแดดจัด ปลายใบจะไหม้

เฟื่องฟ้า

Paper Flower

เฟื่องฟ้า

ดอกกระดาษ/ดอกโคม/ดอกต่างใบ/ตรุษจีน/Paper Flower
ชื่อวิทยาศาสตร์: Bougainvillea spp.and hybrid
วงศ์: Nyctaginaceae
ประเภท: ไม้พุ่มกึ่งเลื้อยขนาดใหญ่ อายุหลายปี
ลำต้น: ยอดเลื้อยพาดได้ไกล 5 – 10 เมตร
ใบ: ออกเวียนสลับรูปรีหรือรูปไข่ กว้าง 3 – 6 เซนติเมตร ยาว 4 – 8 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบหนาคล้ายแผ่นหนัง สีเขียว ก้านใบยาว 1 – 2 เซนติเมตร มีหนามบริเวณโคนก้านใบ
ดอก: ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายยอด ดอกย่อย 8 – 20 ดอก กลีบประดับรูปไข่ 3 กลีบขึ้นไป ซ้อนกันเป็นรูปถ้วย ปลายแหลม มีหลายสีสวยงาม โคนกลีบรวมเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแผ่แบน สีขาวครีม ออกดอกตลอดปี ดอกดกช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม
ผล: ขนาดเล็ก มี 5 พู แต่มักไม่ปรากฏ
อัตราการเจริญเติบโต: เร็ว
ดิน: ดินร่วนปนทราย
แสงแดด: เต็มวัน
สภาพแวดล้อม: ทนแล้ง
ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ปักชำกิ่ง และตอนกิ่ง
การใช้งานและอื่นๆ: เทคนิคทำให้ต้นออกดอกคือ งดให้น้ำ 5 – 7 วัน ใบจะเริ่มร่วง จากนั้นให้น้ำอย่างเต็มที่ ต้นจะผลิดอกบานสะพรั่ง,กลีบประดับนำมาชุบแป้งทอดกินเป็นของว่างได้

โกลด์ฟิงเกอร์ส

โกลด์ฟิงเกอร์ส

Gold Fingers
วงศ์: Rosaceae
ประเภท: Floribunda /กุหลาบพวง
ความสูง:  1 เมตร
ใบ:  สีเขียวเข้ม เป็นมัน
ดอก: ดอกบาน 4 ซม. สีเหลืองเหลือบสีส้มแดง สีแดงจะเข้มขึ้นและสีเหลืองจางลง กลีบสั้น ซ้อนกันมาก กลิ่นหอมอ่อน
อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง
ดิน: ดินปนทราย มีอินทรียวัตถุ ระบายน้ำและอากาศดี ค่า pH 6-7
น้ำ: ปานกลาง ไม่ขังแฉะ
แสงแดด: ตลอดวัน
ขยายพันธุ์: 
เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ติดตา ปักชำกิ่ง
การใช้งานและอื่นๆ: 
เหมาะปลูกในกระถางหรือลงแปลงประดับสวน

ซัมเมอร์แฟชั่น

ซัมเมอร์แฟชั่น

 Summer Fashion/Arc de Triomphe/Jacale
วงศ์:
 Rosaceae
ประเภท: Floribunda /กุหลาบพวง
ความสูง: 1 เมตร
ลำต้น: เป็นพุ่ม
ใบ: ใหญ่ สีเขียวเป็นมันเล็กน้อย
ดอก: เดี่ยว ดอกบานขนาด 10-12 ซม.สีขาวครีมถึงเหลืองอ่อน เหลือบสีชมพูที่ปลายกลีบ ซ้อนกัน 20 กลีบ กลิ่นหอม
อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง
ดิน: ดินปนทราย มีอินทรียวัตถุ ระบายน้ำและอากาศดี ค่า pH 6-7
น้ำ: ปานกลาง ไม่ขังแฉะ
แสงแดด: ตลอดวัน
ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ติดตา ปักชำกิ่ง
การใช้งานและอื่นๆ: เหมาะปลูกในกระถางหรือลงแปลงประดับสวน

เอื้องพญาไร้ใบดอกเขียว

chiloschista viridiflora

เอื้องพญาไร้ใบดอกเขียว

เอื้องพญาไร้ใบ
ชื่อวิทยาศาสตร์: Chiloschista viridiflora Seidenf.
วงศ์: Orchidaceae
ประเภท: กล้วยไม้อิงอาศัย เจริญเติบโตทางด้านข้าง
ลำต้น: สั้นมาก
ใบ: ใบลดรูปเป็นเกล็ดเล็กๆ จึงเห็นแต่รากขนาดใหญ่จำนวนมาก
ดอก: ช่อดอกห้อยลง มี 10 – 20 ดอก ดอกขนาด 1 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีเขียวอมเหลืองมีแต้มสีเขียวอ่อนจางๆ ขอบกลีบสีขาว กลีบปากสีขาว มีแต้มสีเหลืองอมน้ำตาล ออกดอกเดือนมีนาคม – พฤษภาคม
วัสดุปลูก: ไม่ต้องใช้วัสดุปลูก เพียงหาขอน กิ่งไม้ หรือใช้แผ่นไม้หนาๆ ให้ต้นยึดเกาะ
น้ำ: ปานกลาง
แสงแดด: รำไร หรือได้รับแสงในช่วงเช้า
ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ดหรือเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
การใช้งานและอื่นๆ: ปลูกประดับสวน โดยให้เลื้อยเกาะกับต้นไม้ใหญ่ เพื่อให้ได้บรรยากาศแบบสวนป่าเมืองร้อน

ปอร์เซลีน่า

ปอร์เซลีน่า

PORCELINA SPORT ดอกสีขาวครีมอมเหลือง กลายพันธุ์จากต้นที่ปลูกในไทย
Porcelina
วงศ์:
 Rosaceae
ประเภท: Floribunda /กุหลาบพวง
ความสูง: 1-1.30 เมตร
ลำต้น: เป็นพุ่มสูง ขนาดกะทัดรัด
ใบ: สีเขียวเข้ม
ดอก: เดี่ยวหรือเป็นช่อ 2-3 ดอก ดอกบาน 8-9 ซม.สีขาวครีมหรือขาวอมชมพู ซ้อนกันประมาณ 30 กลีบ กลิ่นหอม ออกดอกดกตลอดปี
อัตราการเจริญเติบโต: ปานกลาง
ดิน: ดินปนทราย มีอินทรียวัตถุ ระบายน้ำและอากาศดี ค่า pH 6-7
น้ำ: ปานกลาง ไม่ขังแฉะ
แสงแดด: ตลอดวัน
ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ด ตอนกิ่ง ติดตา ปักชำกิ่ง
การใช้งานและอื่นๆ: เหมาะปลูกในกระถางหรือลงแปลงประดับสวน เผยแพร่เมื่อปีค.ศ. 1983 (พ.ศ. 2526) ในหนังสือ Modern Roses จัดเป็นกุหลาบดอกเดี่ยว ทรงดอกสวย ตัดดอกได้

บานชื่น/Zinnia

Zinnia

บานชื่น/Zinnia

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Zinnia violacea Cav.
วงศ์ : Asteraceae
ประเภท : ไม้ดอกอายุสั้น
ความสูง : 0.45 – 1 เมตร
ลำต้น : ตั้งตรง สีเขียวอมเหลืองหรือม่วง มีขนสีขาวเส้นยาวอ่อนนุ่มแนบผิวลำต้น
ใบ : รูปใบหอกหรือรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ปลายใบแหลมโคนใบมน ขอบใบเรียบ ผิวใบมีขนหยาบ ก้านใบสั้น
ดอก : ออกเป็นช่อกระจุก มีทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดอก 4 – 10 เซนติเมตร กลีบดอกวงนอกรูปขอบขนาน สีขาวนวล เหลือง ชมพู ส้ม ม่วง แดง และสองสีในดอกเดียวกัน กลีบดอกวงในรูปหลอดสีเหลือง ดอกมีรูปทรงและการเรียงกลีบดอกหลายแบบ
ดิน : ดินร่วนปนทราย ระบายน้ำดี
แสงแดด :เต็มวัน
น้ำ/ความชื้น : ปานกลาง
การขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ดโดยกลบเมล็ดบางๆ เมล็ดจะงอกใน 10 – 20 วัน หลังเพาะ 2 – 3 เดือนจึงออกดอก
การใช้งานและอื่นๆ : ควรรดน้ำบริเวณโคนต้น ไม่ควรให้โดนใบ เพราะทำให้เกิดโรคและกิ่งก้านหักง่าย บานชื่นมีระบบรากตื้น ควรเด็ดยอดเพื่อให้แตกพุ่มด้านข้าง จะช่วยให้รากยึดลำต้นให้ติดกับดินได้ดี ไม่หักล้มง่าย
*ดอกบานชื่นพันธุ์เก่าๆ บานไม่พร้อมกัน ทำให้ในต้นเดียวมีทั้งดอกโรยและดอกใหม่ จึงมีชื่อเรียกว่า “Youth-and-old-age”

สร้อยอินทนิล

Bengal Clock Vine

สร้อยอินทนิล

ช่องหูปากกา/ช่ออินทนิล/น้ำผึ้ง/ปากกา/ย่ำแย่/Bengal Clock Vine/Blue Trumpet Vine/Clock Vine/Sky Vine/ Skyflower
ชื่อวิทยาศาสตร์: Thunbergia grandiflora (Roxb.ex Rottler) Roxb.
วงศ์: Acanthaceae
ประเภท: ไม้เลื้อยเนื้อแข็งขนาดใหญ่ อายุหลายปี
ลำต้น: เลื้อยได้ไกล 15-30 เมตร ลำต้นเป็นเหลี่ยม
ใบ: ใบรูปไข่ถึงรูปหัวใจ กว้าง 7-10 เซนติเมตร ยาว 10-12 เซนติเมตร ปลายใบแหลม โคนใบเว้ารูปหัวใจ ขอบใบหยักฟันเลื่อย บางใบหยักเว้าตื้น 5-7 แฉก ผิวใบสากแข็ง เส้นใบหลัก 3-5 เส้นออกจากโคนใบ
ดอก: ออกเป็นช่อกระจะตามซอกใบและปลายกิ่งห้อยลง ใบประดับสีเขียวอ่อน 2 ใบหุ้มดอกตูม ดอกรูปกรวย กลีบดอกสีฟ้าอมม่วงหรือสีขาว ( T.grandiflora ‘Alba’) โคนกลีบสีเหลืองอ่อนเชื่อมติดกันเป็นหลอดสั้น ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ โคนกลีบล่างมีสีม่วงเข้ม ออกดอกเดือนมีนาคมถึงตุลาคม
ผล: ค่อนข้างกลม ปลายเป็นจะงอย เมื่อแก่แล้วแตก
เมล็ด: เมล็ดค่อนข้างกลม
ดิน: ดินร่วนซุยที่มีอินทรียวัตถุสูง
แสงแดด: รำไรถึงแสงแดดจัด
ขยายพันธุ์: ปักชำกิ่งและตอนกิ่ง
การใช้งานและอื่นๆ: หมั่นใส่ปุ๋ยคอกจะแข็งแรงและออกดอกดก ปัจจุบันมีพันธุ์ใบด่าง (T. grandiflora‘Variegata’) ที่ให้ดอกสวยงามเช่นกัน เปลือกและรากนำมาตำพอก แก้ชํ้า อาการบวมและอักเสบ

ถ้วยทอง/Trumpet Plant

Trumpet Plant

ถ้วยทอง/Trumpet Plant

ชื่อวิทยาศาสตร์: Solandra grandiflora Sw.
วงศ์: Solanaceae
ประเภท: ไม้เลื้อยขนาดใหญ่ อายุหลายปี
ลำต้น: ยอดเลื้อยพาดไปได้ไกล 2 – 5 เมตร มีรากพิเศษออกตามลำต้น
ใบ: ใบออกสลับ รูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง 7 – 10 เซนติเมตร ยาว 12 – 18 เซนติเมตร ปลายใบแหลมเป็นติ่ง โคนใบรูปลิ่ม ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเป็นมัน
ดอก: ดอกเดี่ยวออกที่ซอกใบ มีกลิ่นหอม บานตอนกลางคืน กลีบเลี้ยงสีเขียว โคนเชื่อมติดกัน ดอกรูปถ้วย กลีบดอกสีขาวนวลจนถึงสีเหลือง โคนกลีบสีเหลืองปนเขียวเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ ม้วนพับไปด้านหลัง ขอบจักเป็นคลื่น ด้านในสีขาวนวล มีเส้นกลางกลีบสีน้ำตาลแดง ออกดอกตลอดปี ดอกดกช่วงฤดูหนาว
ผล: ผลสดมีเนื้อ ทรงกลม เมื่อสุกสีขาวครีม เมล็ดรูปไตขนาดเล็กจำนวนมาก สีน้ำตาลอ่อน
อัตราการเจริญเติบโต: เร็ว
ดิน: ดินร่วน ระบายน้ำดี
แสงแดด: เต็มวัน
ขยายพันธุ์: เพาะเมล็ดและปักชำกิ่ง

พวงแก้วแดง

Java Glory Bean

พวงแก้วแดง

พวงนาก/Java Glory Bean/Pagoda Flower
ชื่อวิทยาศาสตร์: Clerodendrum x speciosum Dombr.
วงศ์: Lamiaceae
ประเภท: ไม้เลื้อยขนาดกลาง อายุหลายปี
ลำต้น: ยอดเลื้อยได้ไกล 2 – 4 เมตร ลำต้นเกลี้ยงสีม่วงแดง
ใบ: ใบออกตรงข้าม รูปไข่ กว้าง 6 – 7 เซนติเมตร ยาว 10 – 16 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลม โคนใบมน ขอบใบเรียบ แผ่นใบสีเขียวเข้ม
ดอก: ออกเป็นช่อกระจุกตามซอกใบและปลายยอด ดอกย่อยเป็นหลอด กลีบเลี้ยงสีแดงเรื่อ 5 กลีบ รูปหัวใจ ปลายแหลมแยกเป็นแฉก โคนเชื่อมติดกัน กลีบดอกสีแดงเข้ม โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกออกเป็น 5 กลีบ เกสรเพศผู้สีชมพูเป็นเส้นยาวยื่นออกมาพ้นดอก ไม่ติดผล ออกดอกตลอดปี
ดิน: ดินร่วน ระบายน้ำดี อินทรียวัตถุสูง
แสงแดด: เต็มวัน
ขยายพันธุ์: ปักชำและตอนกิ่ง

ว่านสี่ทิศ/Amaryllis

Amaryllis

ว่านสี่ทิศ/Amaryllis

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Hippeastrum spp.
วงศ์ : Amaryllidaceae
ประเภท : ไม้อวบน้ำล้มลุก อายุหลายปี
ลำต้น : มีลำต้นใต้ดินเป็นหัวแบบหัวหอม (tunicate bulb) ระบบรากฝอยสีขาวหรือสีน้ำตาล
ใบ : ใบเดี่ยว เรียงสลับออกจากตายอด รูปแถบ ปลายใบแหลม เรียวยาว ขอบใบเรียบ เส้นกลางใบขนาดใหญ่ ก้านใบสั้นมากหรือไม่มี แต่ละหัวมี 3 – 10 ใบ ใบสีเขียวหรือด่าง ยกเว้นบางพันธุ์มีสีครีมหรือสีแดงเข้มตามขอบใบหรือปลายใบ
ดอก : ช่อดอกแบบซี่ร่มออกจากกึ่งกลางยอด ดอกย่อย 2 – 15 ดอก ทยอยบาน ก้านช่อดอกใหญ่ ตั้งตรง สีเขียวอ่อนหรือเข้ม มีนวลสีขาวเคลือบ ภายในกลวง ก้านดอกย่อยกลมหรือเป็นเหลี่ยมเล็กน้อย ที่โคนก้านดอกย่อยแต่ละก้านมีใบประดับย่อยเล็กๆ 1 ใบ ดอกสมมาตรตามแนวรัศมีหรือสมมาตรด้านข้าง ดอกสมบูรณ์เพศ มีกลีบรวมเชื่อมติดกันเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 6 กลีบ เรียงเป็น 2 ชั้น ชั้นละ 3 กลีบ สีแดง ส้ม ชมพู ขาว เหลือง บางพันธ์ุมีสีขาวตรงโคนกลีบ
ผล : แห้งแตก เมล็ดกลมแบน เมื่อแก่เปลี่ยนเป็นสีดำมันจำนวนมาก
ดิน : ดินร่วนปนทรายระบายน้ำดี มีอินทรียวัตถุสูง มีความเป็นกรดเล็กน้อย (pH 6 – 6.5)
แสงแดด : แดดเต็มวัน
น้ำ/ความชื้น : น้ำและความชื้นปานกลางแต่ควรให้น้ำสม่ำเสมอ
ขยายพันธุ์ : เพาะเมล็ด แยกหัว เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
การใช้งานและอื่นๆ: ว่านสี่ทิศถือเป็นราชินีแห่งไม้หัว (Bulb) เหมาะปลูกเป็นไม้กระถางและลงแปลงเพื่อจัดสวน